วันศุกร์ที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

บันทึกสะท้อนคิด วันจันทร์ ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ.2558

วันจันทร์ที่ 29 มิถุนายน 2558

          วันนี้เป็นวันแรกของสัปดาห์แห่งการเรียนรู้ หน่วย สุขสดใสร่างกาย  ดิฉันพาเด็กๆเล่นเกมส์เกี่ยวกับร่างกาย  เด็กๆตื่นเต้นและสนุกสนาน  แล้วเรียนรู้ศัทพ์ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับอวัยวะต่างๆของร่างกาย
ในช่วงสายๆพาเด็กออกมาเรียนรู้นอกห้องเรียนเพื่อเสริมพัฒนาการทางด้านร่างกาย นอกจากนี้เด็กยังได้เรียนรู้จากของจริงด้วย เด็กๆเห็นกิ้งก่านอนตายอยู่ก็พากันรุมดูและพากันตื่นเต้นแล้ววิ่งมาบอกครู ดิฉันจึงใช้กิ้งก่าสอนเด็กๆ และพูดคุยสนทนากันระหว่างครูและเด็กอย่างสนุกสนาน และสอดแทรกคุณธรรม จริยธรรม ให้กับเด็กๆด้วย
          ทุกๆวันก่อนนอนพักผ่อน ดิฉันจะให้เด็กนั่งสมาธิ แผ่เมตตา  และสวดมนต์ก่อนนอน

 

บันทึกสะท้อนคิด วันศุกร์ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2558

วัน ศุกร์ ที่ 26 มิถุนายน 2558

          วันนี้เด็กๆขาดเรียนกันเยอะเหมือนเดิมเพราะป่วยเป็นไข้ไม่สบาย   ในช่วงเย็นดิฉันได้แจกเอกสาร
ให้กับผู้ปกครองเพื่อสอบถามข้อมูลการรับวัคซีนของเด็กๆ

 
  



วันพฤหัสบดีที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2558

บันทึกสะท้อนคิด วัน พฤหัสบดี ที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2558

วันพฤหัสบดี ที่ 25 มิถุนายน 2558

     วันนี้เป็นอีกวันที่มีเด็กนักเรียนมาเรียนน้อย ห้องดิฉันเด็กมา 18 คน ขาด 10 คน  จากข้อมูลที่ได้มา
เด็กส่วนใหญ่ป่วย ไม่สบาย กันเยอะ  อย่างเด็กอนุบาล 1 ครูประจำชั้นโทรให้ผู้ปกครองมารับเด็กกลับไป จำนวน 3 คน  และเมื่อเช้าได้ฟังประกาศจากโรงเรียนใหญ่ เกี่ยวกับโรคต่างๆที่ผู้ป่วยเป็นกันเยอะ ไม่ว่าจะเป็นโรคไข้เลือดออกกำลังระบาดเลยในพื้นที่ ตำบลหนองบัวศาลา  และอีกโรคที่เป็นข่าวดังในขณะนี้นั่นก็คือ โรคเมอร์ส  ซึ่งมีผู้ป่วยที่เฝ้าระวังอยู่ 1 ราย และอาศัยอยู่ในพื้นที่ ตำบลหนองบัวศาลา. ทางศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อบต.หนองบัวศาลา จึงทำการสแกนเด็กอย่างละเอียด ถ้าเด็กคนไหนมีน้ำมูก ตัวรุมๆ ซึมเศร้า ทางเราก็จะให้นำเด็กกลับบ้าน เพื่อป้องกันการติดไข้หวัดกับเพื่อนๆ

วันพุธที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2558

บันทึกสะท้อนคิด วันพุธ ที่ 24 มิถุนายน พ.ศ.2558

 วันพุธ ที่ 24 มิถุนายน 2558

          วันนี้เหตุการณ์ปกติดี ไม่มีปัญหาใดๆให้ต้องแก้ไข  จะมีก็แต่ยังมีผู้ปกครองบางคน ตามใจเด็ก ทำให้เด็กทุกอย่าง ตั้งแต่ถอดรองเท้าวางในชั้นให้เด็ก เอากระเป๋าไปเก็บในล็อคเกอร์ ส่งการบ้านให้ ซึ่งเด็กห้องดิฉันเป็นเด็กอายุ 4 ขวบ ขึ้นไป เด็กๆสามารถที่จะทำเองได้ ช่วยเหลือตัวเองได้เกือบทุกอย่าง ซึ่งดิฉันก็ได้มีการพูดคุยกับเด็ก  บอกให้เด็กทำด้วยตัวเองแล้วหนูจะเป็นคนเก่ง ชมเด็กเวลาเด็กทำได้ เค้าก็จะภูมิใจในสิ่งที่เค้าทำ  ส่วนตัวผู้ปกครองดิฉันก็ได้อธิบายให้ผู้ปกครองทราบถึงเหตุผลว่าทำไมครูถึงต้องให้เด็กทำเอง  แต่ผู้ปกครองก็ยังทำให้อยู่ ดิฉันก็ไม่เข้าใจว่าเป็นเพราะอะไร????

บันทึกสะท้อนคิด วันอังคาร ที่ 23 มิถุนายน พ.ศ.2558

วันอังคารที่ 23 มิถุนายน 2558
       
          วันนี้เป็นอีกวันที่มีเด็กป่วยมาเรียน  ช่วงเช้าดิฉันก็ได้สแกนเด็กก่อนแล้ว  แต่เด็กคนนี้ไม่มีอาการผิดปกติใดๆ  พอสายๆ เด็กเริ่มมีอาการซึม ปวดหัว ตัวรุมๆ   ดิฉันก็แยกเด็กออกไปนอนที่ห้องพยาบาล
โทรติดต่อผู้ปกครองให้มารับเด็กไปหาหมอแต่ไม่สามารถติดต่อได้  จึงปฐมพยาลเบื้องต้น เช็คประวัติเด็กจากสมุดสีชมพูว่าแพ้ยาหรือเปล่า   จากนั้นก็ให้ทานยาลดไข้  เช็ดตัวให้เด็ก เพื่อให้ร่างกายระบายความร้อน  ดูแลเด็กอย่างใกล้ชิดจนกว่าผู้ปกครองจะมารับ  และวันนี้น้องมายมิ้นก็ไม่มีคนมารับเช่นเคย
แต่คราวนี้ดิฉันไม่ไปส่งเด็กที่บ้าน นั่งรอผู้ปกครองจนถึงเวลา 17.00 น.  เหตุผลที่ไม่ไปส่งเด็กนั้นเพราะว่าถ้าเราพาเด็กออกนอกโรงเรียน แล้วเกิดประสบอุบัติเหตุขึ้น  เราเองจะเป็นฝ่ายผิด อีกอย่างผู้ปกครองจะต้องมีความรับผิดชอบลูกหลานของตัวเองให้มากกว่านี้ ไม่ใช่ผลักภาระให้กับคุณครูมากเกินไป

บันทึกสะท้อนคิด วันจันทร์ ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ.2558

วันจันทร์ที่ 22 มิถุนายน 2558

         วันนี้ เปิดเรียนวันแรกของสัปดาห์ สังเกตุเด็กจากหลายๆห้อง ขาดเรียนเยอะเลยทีเดียว  จากการสอบถาม เด็กส่วนใหญ่ที่ขาดเรียนสาเหตุมาจาก เด็กป่วยเป็นไข้ ไม่สบาย  อย่างวันนี้ห้องดิฉันเด็กขาดเรียนทั้งหมด 9 คน.  ส่วนเด็กที่มาบางคนมีอาการไอ เซื่องซึม  ดิฉันก็คัดแยกเด็กออกจากกลุ่มเพื่อไม่ให้เด็กติดไข้กัน และแจ้งให้ผู้ปกครองทราบว่าถ้าเด็กป่วยไม่สบาย  หยุดพักฟื้นที่บ้าน ให้เด็กหายป่วยดีแล้วค่อยนำเด็กมาโรงเรียน  แต่ก็มีผู้ปกครองบางคนรู้ทั้งรู้ว่าเด็กป่วย ไม่สบาย แต่ก็ให้เด็กมาโรงเรียน
พอดิฉันบอกให้นำเด็กกลับไปพักฟื้นที่บ้าน  ก็ไม่ได้รับความร่วมมือเท่าที่ควร บอกว่าทำงาน ไม่มีคนอยู่บ้านคอยดูแล เป็นอีกปัญหาที่แก้ไม่ได้สักที    
          อีกเรื่องที่พบในวันนี้ก็คือ มีเด็กนักเรียน 1 คน ไม่มีคนมารับ ดิฉันรอจนกระทั่งเวลา 16.30 น. ก็ไม่มีวี่แวว  เบอร์โทรที่ให้ไว้ก็ไม่สามารถติดต่อได้ ดิฉันจึงตัดสินใจพาเด็กไปส่งที่บ้านเอง  ไปพบย่าของเด็กกำลังตามหาหลานตัวเองซึ่งปกติแล้วย่าให้คนข้างบ้านไปรับให้แต่เค้าไม่ได้ไปรับเนื่องจากหลานของตัวเองไม่ได้ไปโรงเรียนจึงเกิดการเข้าใจผิด แต่เหตุการณ์ก็ผ่านไปได้ด้วยดี
         

วันอังคารที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2558

บันทึกสะท้อนคิด วันศุกร์ ที่ 19 มิถุนายน พ.ศ.2558

วันศุกร์ที่ 19 มิถุนายน 2558

          วันนี้พาเด็กทำกิจกรรมส่งเสริมพัฒนาการทางด้านร่างกาย กล้ามเนื้อมัดใหญ่ โดยให้เด็กๆ
ฝึกการเดินทรงตัว ในลักษณะต่างๆ เด็กๆสนุกสนานและให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรมเป็นอย่างดี
นอกจากนี้ ยังฝึกความมีวินัยให้กับเด็กๆ  รู้จักการรอคอย  การแบ่งปัน  แต่ก็มีเด็กบางคนที่ยังไม่รู้จักการแบ่งปันให้กับเพื่อนๆ   เด็กบางคนนำของเล่นจากที่บ้านมาโรงเรียนด้วยและเอามาโอ้อวดทำให้เด็กคนอื่นๆสนใจ อยากเล่นของเล่นชิ้นนั้นด้วย เป็นเหตุให้เกิดการแย่งของเล่นกันขึ้น. ล่าสุดมีเด็กในห้องนำของเล่นมาอวดเพื่อน เพื่อนเห็นจึงขอดูบ้างแต่ตัวเองไม่ให้ดู จึงแตะขาเพื่อนเกิดเสียหลักของเล่นในมือกระแทกปากเพื่อนแตกเล็กน้อย  ดิฉันลงโทษเด็กโดยการยึดของเล่นจะคืนต่อเมื่อกลับบ้าน และว่ากล่าวตักเตือนเด็กกับสิ่งที่ตนเองทำ  และแจ้งให้ผู้ปกครองของทั้ง 2 ฝ่าย ทราบ ฝ่ายผู้ปกครองเด็กที่ได้รับบาดเจ็บ ไม่ติดใจเอาความอะไร 




  

วันจันทร์ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2558

บันทึกสะท้อนคิด วันพฤหัสบดี ที่ 18 มิถุนายน พ.ศ.2558

วันพฤหัสบดี ที่ 18 มิถุนายน 2558

          วันนี้ทางศูนย์พัฒนาเด็กเล็กองค์การบริหารส่วนตำบลหนองบัวศาลา ได้จัดพิธีไหว้ครูขึ้น
ในช่วงเช้าพาเด็กทำกิจกรรมหน้าเสาธงตามปกติ หลังจากนั้นก็พาเด็กๆเข้าสู่ห้องประชุมเพื่อทำพิธีไหว้ครู และ มีผู้ปกครองบางคนอยู่ร่วมงานในครั้งนี้ด้วย ระหว่างรอประธานเปิดงานในพิธีไหว้ครูครั้งนี้ ดิฉัน
ได้เดินแจกดอกไม้ที่เด็กๆได้เตรียมมาไหว้ครู ให้กับเด็กๆแต่ละคน  มีผู้ปกครองน้องมาร์คซึ่งเป็นเด็กห้องดิฉันเองเดินเข้ามาส่งเด็กในแถวเนื่องจากมาสาย  ดิฉันก็รับเด็กและให้เด็กนั่งลงต่อแถวเพื่อนและนั่งเป็นคนสุดท้ายของแถว  ดิฉันก็เดินแจกดอกไม้ให้กับเด็กๆต่อ ไม่ทันสังเกตว่าเด็กอนุบาล 3/1 ที่นั่งแถวข้างๆห้องดิฉัน กำลังหยอกล้อเล่นกันอย่างสนุกสนานและก็ไปถีบหลังของน้องมาร์คเข้า บังเอิญแม่ของเด็กยังไม่กลับและเห็นว่าเด็กอนุบาล 3 ถีบหลังลูกตัวเอง แม่น้องมาร์คก็เดินเข้ามาตีและด่าเด็กอนุบาล 3 คนนั้น เสียงดังมากจนดิฉันตกใจว่าเกิดอะไรขึ้น  นาทีนั้นดิฉันรู้สึกหน้าชา ทำอะไรไม่ถูก มองหาเพื่อนครูด้วยกันทันที และ มีครูเพียง 2 คน รวมดิฉันเป็น 3 คน ยืนอยู่บริเวณนั้น  จากนั้นดิฉันก็รวบรวมสติให้กลับมาแล้วเดินไปหาน้องมาร์คพาน้องมาร์คมานั่งข้างหน้ากับดิฉัน. และบอกครูประจำชั้นอนุบาล 3/1 มาประจำแถวเพื่อดูแลเด็กประจำห้องตัวเอง  หลังจากที่แม่น้องมาร์คตีและด่าเด็กอนุบาล 3/1 ก็กลับบ้านทันที
และพิธีไหว้ครูก็ผ่านพ้นไปด้วยดี.

         

วันอาทิตย์ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2558

บันทึกสะท้อนคิด วันพุธ ที่ 17 มิถุนายน พ.ศ.2558

วันพุธ ที่ 17 มิถุนายน 2558
         
          เวลา 7.00 น. รับเด็กนักเรียนตามปกติ และให้เด็กส่งการบ้านไว้บนโต๊ะ จนกระทั่งถึงเวลา 8.00 น.
มีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้นกับครูประจำชั้นอนุบาล 1/3 ชื่อว่าครูเอ๋   ซึ่งครูเอ๋มีอาการหายใจไม่ออก ตอนที่ครูเอ๋เกิดอาการก็เป็นช่วงที่เราเดินสวนทางกัน  แต่ก็ไม่ได้บอกดิฉันให้รับรู้อาการใดๆทั้งสิ้น
จนกระทั่งมีครูอีกท่านนึง ชื่อว่า ครูเดือน ตะโกนเรียกดิฉันให้มาช่วยในขณะเดียวกันครูเดือนเองก็ตกใจทำอะไรไม่ถูก พอดิฉันเห็นอาการก็รีบเข้าไปพยุงและให้ครูเอ๋นอนราบกับพื้น ปลดตะขอเสื้อใน กางเกง
ออกเพื่อให้หายใจได้สะดวกขึ้น และบอกให้ผู้ป่วยหายใจเข้าลึกๆและช้าๆ จากนั้นก็ทำการบีบนวดมือ นวดเท้าไม่ให้เกร็ง ให้ดื่มน้ำอุ่นและยาหอม อาการก็เริ่มดีขึ้น และนำตัวส่งโรงพยาบาล. จากการสอบถามอาการเบื้องต้น ครูเอ๋บอกว่าท้องเสีย  แต่ทำไมถึงหายใจไม่ออกและเหตุการณ์นี้ก็ผ่านพ้นไปด้วยดี
         

บันทึกสะท้อนคิด วันอังคาร ที่ 16 มิถุนายน พ.ศ.2558

วันอังคาร ที่ 16 มิถุนายน พ.ศ.2558

          สถานการณ์วันนี้เกิดความวุ่นวายนิดหน่อย เนื่องจากครูอนุบาล 1 ไปอบรม จำนวน 1 คน
ทำให้เด็กอนุบาล 1/3 ไม่มีครู. ทางเราจึงรวมเด็กอนุบาล 1 เข้าด้วยกัน และครูก็ช่วยกันดูเด็กนักเรียนทั้ง 2 ห้อง ระหว่างครูอนุบาล 1 และ อนุบาล 2
          ในช่วงเวลาบ่ายวันนี้เกิดพายุฝนตกและครูห้องข้างๆเข้าไปส่งงานใน อบต.และต้องติดฝนอยู่ที่ อบต. ในขณะนี้เองฝนก็ได้สาดระเบียงหน้าห้องทำให้รองเท้าของเด็กๆ เปียก ตัวดิฉันเองก็รีบออกมาขนรองเท้าของเด็กๆทั้ง 2 ห้อง แต่ด้วยกำลังแค่คนเดียวขนย้ายรองเท้าไม่ทัน จึงได้ให้เด็กที่ยังไม่นอนคอยรับ-ส่ง รองเท้า แล้ววางเรียงให้เป็นระเบียบ ถ้าไม่ได้เด็กพวกนี้คงแย่เหมือนกัน
           พอถึงเวลากลับบ้าน ฝนก็ยังคงตกปอยๆอยู่ ครูที่ไปส่งงานที่ อบต.ก็ยังไม่กลับมาเนื่องจากติดฝน
ในขณะเดียวกันก็มีผู้ปกครองมารับเด็กนักเรียนชื่อน้องแพงกลับบ้าน ดิฉันก็ส่งนักเรียนกลับบ้านตามปกติ แต่ไม่ได้สังเกตว่าผู้ปกครองหยิบรองเท้านักเรียนไปผิด รู้อีกทีผู้ปกครองน้องแพรวมารับแล้วหารองเท้าไม่เจอ ดิฉันก็แก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้าโดยให้ใส่รองเท้าแตะของศูนย์พัฒนาเด็กเล็กฯ ไปก่อน
แล้วพรุ่งนี้ครูจะเปลี่ยนรองเท้าคืนให้

บันทึกสะท้อนคิด วันจันทร์ ที่ 15 มิถุนายน พ.ศ.2558

วันจันทร์ ที่ 15 มิถุนายน 2558

     วันนี้สถานการณ์โดยรวม ปกติดี ไม่มีเหตุการณ์ใดๆให้แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า.
แต่จำนวนนักเรียนที่มาเรียนวันนี้ 18 คน จากเด็กทั้งหมด 28 คน. นักเรียนขาดเรียนไป 10 คน
เด็กที่ขาดเรียนส่วนใหญ่ไม่สบาย เนื่องจากสภาพอากาศทุกวันนี้ร้อนมาก  ร่างกายของเด็กจึงปรับสภาพไม่ทัน บางวันมีฝนตกหนัก ช่วงเวลาที่เด็กกลับบ้านทำให้เด็กเปียกฝนและเกิดอาการเป็นหวัดตามมา
ส่วนกิจกรรมการเรียนการสอน สัปดาห์นี้เรียน หน่วย ชื่อของหนูก็มี  เด็กๆตื่นเต้นที่ได้ทายชื่อเพื่อนๆแต่ละคน คนไหนทายชื่อเพื่อนได้เยอะที่สุดก็จะได้รางวัลจากคุณครู

วันศุกร์ที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2558

บันทึกสะท้อนคิด วันศุกร์ ที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2558

วันศุกร์ที่ 12 มิถุนายน 2558
         
          บรรยากาศในห้องเรียนวันนี้สนุกสนาน ครื้นเครง เพราะเป็นวันสุดท้ายของสัปดาห์ เด็กๆรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้หยุดเรียน 2 วัน  แต่ก็มีเหตุการณ์ให้ดิฉันได้แก้ปัญหาอีกเช่นเคย เมื่อน้องอาชิเกิดอาการท้องเสีย  สาเหตุอาจมาจากอากาศร้อน อาหารที่กินเข้าไปอาจเสียได้ง่าย  เมื่อสังเกตุจากอาการน้องอาชิเบื้องต้นแล้ว มีการเข้าห้องน้ำ 2-3 ครั้ง และมีอาการอิดโรย ดิฉันจึงชงน้ำเกลือแร่ให้น้องดื่ม ให้น้องนอนพักและสังเกตุอาการว่ายังมีอาการท้องเสียอยู่หรือไม่ จากการสังเกตุพบว่าน้องอาชิยังมึอาการท้องเสียอยู่ ดิฉันจึงโทรติดต่อให้ผู้ปกครองมารับน้องไปหาหมอทันทีเพราะกลัวว่าถ้าปล่อยทิ้งไว้นานกว่านี้อาการของน้องจะแย่ลงและเกิดอันตรายได้

บันทึกสะท้อนคิด วันพฤหัสบดี ทึ่ 11 มิถุนายน พ.ศ.2558

วันพฤหัสบดี ที่ 11 มิถุนายน  2558

          วันนี้ที่ห้องเรียน ยังคงมีเด็กร้องไห้อยู่ 2 คน. คนที่ 1 ชื่อว่าน้องอาชิ จากสถานการณ์คาดเดาว่าร้องไห้เพราะแม่มาส่ง โดยปกติแล้วตั้งแต่เปิดเรียนมาคนที่มารับ-มาส่ง น้อง อาชิ จะเป็นพ่อ แต่อาทิตย์นี้ทั้งอาทิตย์แม่มาส่งน้องด้วยทำให้น้องงอแงร้องไห้ไม่อยากมาโรงเรียน และจากที่ได้คุยกับน้องอาชิเกี่ยวกับเรื่องของแม่นั้น น้องบอกว่าแม่ไปทำงานอยู่ไกลๆ หนูอยู่บ้านกับพ่อ  แม่ไม่ได้อยู่ด้วย จึงพอสรุปได้ว่าทำไมน้องอาชิถึงร้องไห้งอแง
          คนที่ 2 ชื่อว่าน้องปิ่น ร้องไห้เสียงแหลมมากแบบว่าแสบแก้วหูเลยทีเดียว ถ้าได้ยินเสียงนี้รู้ทันทีว่าเธอมาแล้ว เพราะมันเป็นเสียงที่คุ้นหูครูทั้งโรงเรียนเลยทีเดียวก็ว่าได้  ทุกคนได้ยินเสียงเธอตั้งแต่อนุบาล 1  จนกระทั่งขึ้นอนุบาล 2 เธอก็ยังไม่เลิกร้อง  ดิฉันเตรียมใจไว้รอเพราะรู้ว่าเมื่อเธอขึ้นอนุบาล 2 เธอจะต้องมาอยู่ห้องดิฉันแน่นอน และก็ไม่ผิดจากที่ดิฉันคิดไว้ วันแรกที่เปิดเรียนดิฉันเตรียมรับมือไว้เป็นอย่างดี แต่สิ่งที่ดิฉันคิดไว้มันผิดคาด เธอเดินเข้ามาในห้องแล้วสวัสดีค่ะคุณครู มันทำให้ดิฉันอึ้งไปชั่วขณะ ไม่น่าเชื่อว่าเธอไม่ร้อง แต่หลังจากวันนั้นเธอก็ห่างหายไปจากโรงเรียน นับครั้งได้ว่าตั้งแต่เปิดเรียนมาเธอมาโรงเรียนแค่ 5 วันอยู่เลย และวันนี้เป็นอีกวันที่เธอมา ดิฉันได้คุยกับครูประจำชั้นที่น้องปิ่นเคยอยู่ด้วยว่าเพราะอะไรทำไมน้องถึงร้องไห้งอแง จากการพูดคุยพอสรุปได้ว่า พ่อ แม่ พอเห็นลูกร้องไห้ก็สงสาร เป็นห่วงลูก พอลูกไม่อยากมาโรงเรียนก็ตามใจ  ทำให้เด็กไม่คุ้นเคยกับเพื่อนๆ คุณครู และสิ่งแวดล้อมใหม่ๆ  การที่เด็กได้มาโรงเรียนทุกวันจะทำให้เด็กสามารถปรับตัวเข้ากับเพื่อน คุณครู และสิ่งแวดล้อมใหม่ได้เป็นอย่างดี
         

วันพุธที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2558

บันทึกสะท้อนคิด วันพุธ ที่ 10 มิถุนายน พ.ศ.2558

วันพุธ ที่ 10 มิถุนายน พ.ศ.2558

          วันนี้มีผู้ปกครองมาส่งเด็กนักเรียนแต่ไม่ยอมกลับสักทียังคงนั่งเฝ้าเด็กอยู่จนถึงเวลาเข้าแถว
คุณครูก็ได้บอกคุณแม่ว่าให้กลับได้เลยค่ะไม่ต้องเฝ้า ไม่ต้องห่วงน้องน่ะค่ะเดี๋ยวคุณครูจะคอยดูแลลูกคุณแม่ให้เองค่ะ แต่คุณแม่ก็ยังเฝ้าอยู่ ตัวเด็กเองก็ไม่ได้งอแงหรือร้องไห้  คุณครูจึงสอบถามและพูดคุยกับเด็กถึงพฤติกรรมของคุณแม่เวลาอยู่กับเด็กว่ามีลักษณะอย่างไรเพื่อนำมาปรับทัศนคติความคิดและลดความกังวลและความห่วงใยที่แม่มีต่อเด็กในเวลาที่เด็กอยู่โรงเรียนว่าเด็กจะได้รับการดูแล สั่งสอน ให้เด็กสามารถช่วยเหลือตัวเองได้ในระดับหนึ่งโดยที่คุณแม่คอยดูพัฒนาการของเด็กในขณะที่กลับไปบ้าน

บันทึกสะท้อนคิด วันอังคารที่ 9 มิถุนายน พ.ศ.2558

วันอังคาร ที่ 9 มิถุนายน พ.ศ.2558
     
          วันนี้มีเด็กร้องไห้เพิ่ม 1 คน จากเมื่อวานร้องแค่ 2 คน  คนที่ 1 ร้องไห้เพราะแม่มาส่ง จากที่แม่ไม่เคยมาส่งเลยซึ่งครูก็ได้ปลอบเด็กให้หยุดร้องแล้วบอกเด็กว่า ตอนเย็นคุณแม่ก็มารับหนูแล้ว คนเก่งต้องไม่ร้องไห้หนูอยากเป็นคนเก่งหรือเปล่า แล้วเด็กก็หยุดร้องเพราะอยากเป็นคนเก่ง

คนที่ 2 ร้องไห้เพราะไม่ค่อยมาโรงเรียน เนื่องจากผู้ปกครองตามใจเด็กเมื่อเห็นเด็กร้องงอแงไม่อยากมาโรงเรียนผู้ปกครองก็ไม่พามาส่งโรงเรียน ทั้งๆที่ตัวเด็กเองเวลามาโรงเรียนก็สามารถเข้ากับเพื่อนๆได้เป็นอย่างดีและทำกิจกรรมต่างๆร่วมกับเพื่อนและคุณครูได้

คนที่ 3 ร้องไห้เพราะอยากอยู่กับพ่อ. โดยปกติแล้วเด็กคนนี้ไม่เคยร้องงอแง  แต่ด้วยตัวเด็กเองส่วนใหญ่อยู่กับย่าไม่ค่อยได้อยู่กับพ่อ มีเพียงเวลาแค่มารับ-มาส่งเท่านั้น และตัวเด็กเองก็ไม่ได้อยู่กับแม่ด้วย อาจทำให้เด็กรู้สึกขาดความอบอุ่น ดังนั้นคุณครูจึงปลอบเด็ก  ดูแลให้ความรักแก่เด็กและมีรางวัลจูงใจให้

วันอังคารที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2558

บันทึกสะท้อนคิดของ นางสาวเนตรนภา ช่องงาม

วันจันทร์ ที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2558
    
          สถานะการณ์ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กองค์การบริหารส่วนตำบลหนองบัวศาลา

           เวลา 07.00 น. เดินทางมาปฎิบัติงานที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อบต.หนองบัวศาลา พอมาถึงหน้าห้องถึงกับอึ้งกับสภาพที่เจอ ใบไม้ปลิวมาตกที่หน้าห้อง พื้นเปื้อนไปด้วยดิน เนื่องจากโรงเรียนหยุด 2 วัน และฝนตกทำให้บริเวณหน้าห้องสกปรก จึงแก้ปัญหาโดยการชวนเด็กๆช่วยกันทำความสะอาดห้องเรียนของเรา
และวันนี้มีเด็กในห้องร้องไห้ 2 คน เพราะเป็นเด็กใหม่  แก้สถานะการณ์โดย ชวนเด็กคุยเพื่อให้เด็กตอบคำถามแทนการร้องไห้
ในช่วงพักผ่อนมีเด็กอนุบาล 3 จำนวน 1 คน  มานอนที่ห้องด้วยเพราะครูประจำชั้นไม่มาและเด็กคนนี้เป็นเด็กที่นอนยาก แก้ปัญหาโดย ลูบศรีษะเด็ก  เวลา 13.30น. ฝนตกหนัก ละอองฝนสาดเข้ามาที่ระเบียงหน้าห้องซึ่งบริเวณนั้นมีชั้นวางรองเท้าของนักเรียนอยู่ด้วยทำให้ต้องขนย้ายรองเท้านักเรียนเข้ามาเก็บไว้ในห้องเรียน  เวลา 16.30 น. มีนักเรียนตกค้างอยู่ ผู้ปกครองยังไม่มารับเนื่องจากมีฝนตกด้วย แก้ปัญหาโดยโทรติดต่อผู้ปกครองให้มารับเด็ก  กว่าคุณครูจะได้กลับบ้านก็เกือบ 17.00 น. วันนี้ก็ขอจบการเขียนสะท้อนคิดเท่านี้